Because The Details Matter Lifestyle ข้อดี – ข้อเสียของเครื่องปรับอากาศแต่ละประเภท

ข้อดี – ข้อเสียของเครื่องปรับอากาศแต่ละประเภท


แอร์

ปัจจุบันการใช้งานเครื่องปรับอากาศหรือที่เรียกสั้นๆ กันว่า “ แอร์ ” แอร์เป็นที่ตอบโจทย์อย่างมากให้ช่วงหน้าร้อน โดยการทำงานแอร์นั้นจะคอยทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของอากาศในบริเวณหนึ่งให้เป็นไปตามความต้องการ

ประเภทเครื่องปรับอากาศ

โดยสามารถแบ่งตามลักษณะตำแหน่งของแฟนคอยล์ ยุนิท (ตัวพัดลมที่เป่าความร้อนออกไปภายนอก) ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท

ประเภทที่ 1 แบบชิ้นเดียว

แอร์แบบชิ้นเดียว จะเป็นแอร์ฝังหน้าต่าง/ผนัง (window type) ตัวแฟนคอยล์ ยุนิตจะอยู่เป็นชิ้นเดียวกับตัวคอนเดนซิ่ง ยุนิต  (ส่วนที่เป่าลมเย็นให้กับภายในห้อง) ประหยัดพื้นที่เนื่องจากไม่ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งหน่วยภายนอก

ข้อดีของแอร์ประเภทนี้

  • ประหยัดพื้นที่เนื่องจากไม่ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งคอนเดนซิ่ง ยูนิต
  • ติดตั้งง่าย เพราะไม่ต้องเดินท่อน้ำยา จึงทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงกว่าแบบอื่นๆ เนื่องไม่มีการเดินท่อน้ำยา
  • ทำให้ไม่มีความร้อนแทรกซึมตามท่อน้ำยา

ข้อเสียของแอร์ประเภทนี้

  • มีเสียงดังจากการทำงานของคอมเพรสเซอร์ จึงทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนของตัวเครื่องและผนัง
  • ถ้ากรณีหากตัวเครื่องมีขนาดขนาดใหญ่เกินไปจะมีปัญหาในการติดตั้ง เพราะบริเวณช่องหน้าต่างไม่สามารถรับน้ำหนักมากได้ ซึ่งจะต้องมีการทำโครงสร้างมาช่วยค้ำจุนเพิ่ม

นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องยังประกอบด้วยวงจรการทำความเย็นและวงจรการหมุนเวียนอากาศสมบูรณ์ในตัว

ประเภทที่ 2 แบบแยกชิ้นส่วน

แอร์ประเภทนี้เป็นแบบที่นิยมมากที่สุด โดยตัวแฟนคอยล์ ยุนิตนั้นจะแยกไปติดตั้งภายนอกอาคาร ซึ่งจะแยกออกจากส่วนของตัวเครื่องระบายความร้อน โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 1-50 ตัน ถ้าเป็นขนาด 1-3 ตัน มักจะไม่มีการต่อท่อลมไปจ่ายหลายๆ จุด แต่หากขนาดมากกว่านั้นอาจมีการต่อท่อลม ออกจากส่วนเป่าลมเพื่อไปจ่ายในหลายจุด

ข้อดีของแอร์ประเภทนี้

  • มีเสียงเงียบ เพราะเครื่องระบายความร้อนจะโดนแยกออกไปวางไว้ที่อื่น
  • มีรูปแบบให้เลือกค่อนข้างมาก
  • ติดตั้งง่าย

ข้อเสียของแอร์ประเภทนี้

  • ไม่สามารถมีท่อน้ำที่ยาวได้ เพราะอาจจะทำให้ความเย็นน้อยลง
  • กรณีหากท่อยาวก็จะต้องติดตั้งคอยล์ร้อนกับพัดลมเย็นให้อยู่ห่างกัน

ซึ่งตัวน้ำยาแอร์ปัจจุบันมีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-22 ส่วนน้ำยาแอร์สำหรับใช้ในรถยนต์มีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-134A

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันแอร์มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีตัวเลือกให้เลือกอย่างหลากหลายในการใช้งาน เพื่อให้ผู้ซื้อได้มีโอกาสในการเลือกอย่างมากที่สุด